นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ คุยแหลก แดกดึก โดยเล่าถึงเหตุการณ์ ที่ต้องมาอยู่ต่างประเทศใหม่ๆ แล้วถามนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าในแต่ละวันเราทำอะไรบ้าง เพราะตอนอยู่เมืองไทย ทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำตลอด ทำให้ทุกวันนี้ใช้เวลาไปกับการออกกำลังกาย ดูแลตัวเอง เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ ให้ทันยุคทันสมัยมากยิ่งขึ้น
พร้อมเล่าช่วงเวลา ที่ใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าจะทำอย่างไร ไม่ทำให้ตัวเองเศร้า บางทีเห็นเราหัวเราะมีความสุขคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
เป็นเพราะไม่อยากให้คนอื่น เห็นว่าเราไม่มีความสุข พร้อมยอมรับ ในมุมของชีวิตคนเราย่อมมีความเศร้า และนายทักษิณ เองก็เป็นคนที่เข้มแข็งมากๆ
เมื่อถูกถามว่า อยากกลับบ้านหรือไม่ นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวพร้อมเสียงสั่นเครือว่า อยากกลับบ้าน แต่พอคิดแล้วมันก็ทรมาน ทำอย่างไรก็ได้ ที่เราจะต้องอยู่ให้ได้
“วันนอร์” ยันไม่คิดหนุน ประชามติแยกดินแดน จ่อเอาผิด“สนธิ”ปมใส่ร้าย
"บิ๊กตู่" ย้ำรัฐบาลรักษาการจะทำให้ดีที่สุด ไม่สร้างภาระรัฐบาลชุดใหม่
"โอ๊ย! เป็นบ้านเกิด อยากกลับสิค่ะ ถามว่าอยากกลับไหม อยากกลับ แต่ก็ว่า ยังไม่รู้ ถ้าเรามีโอกาสได้กลับโชคชะตาลิขิต ถ้าเราก็ได้กลับ ก็จะได้กลับ คิดแค่นี้ เพราะว่าบางทีคิดว่าอยากกลับบ้านมาก มันทรมาน ต้องคิดแค่ระดับหนึ่ง แล้วก็ต้องอยู่ให้ได้"
นางสาวยิ่งลักษณ์ ยังกล่าวว่า ถ้าไม่พูดถึงเรื่องการกลับบ้าน ก็สามารถอยู่ได้ แต่ในส่วนลึกๆ แล้ว เราพยายามปรับตัว ไม่เช่นนั้นจะทรมาน ดังนั้นเราต้องปล่อยวางระดับหนึ่ง ถามว่าคิดถึงไหม ก็คิดถึง แต่เราก็ต้องนิ่งสงบ แล้วก็รอจังหวะเวลา
นางสาวยิ่งลักษณ์ ยังถูกถามถึงคลิปในติ๊กต๊อก ที่ถูกแชร์ในโซเชียล กรณีถูกถามว่า จะถอยหรือไม่ ในช่วงการเมืองร้องแรง ปี 2557 โดยเล่าว่า วันนั้นเราก็พยายามถึงที่สุดแล้ว อะไรที่เป็นความขัดแย้งเราก็พยายามจะปลดให้ แต่พยายามทำเท่าไหร่ ก็ถูกขับไล่อย่างรุนแรง เราเป็นคนไทยด้วยกัน เราก็ไม่อยากเห็นภาพคนไทยด้วยกันทำแบบนี้ วันนั้นถือว่าที่สุดแล้ว จึงร้องไห้ อัดอันอยู่ข้างใน วันนั้นที่รีบเดินหนีเพราะไม่อยากร้องไห้ให้ใครเห็น พยายามเข้มแข็งให้มากที่สุด แต่ในสถานการณ์วันนั้นหนักจริงๆ เหมือนที่ขับรถอยู่ แล้วอยากจะปล่อยพวงมาลัย แต่ปล่อยไม่ได้ เพราะรถกำลังขับอยู่ ก็ต้องประคองให้ผ่านไปให้ได้ แม้จะขับผ่านถนนลูกรังเราก็ต้องอยู่ จนวันนั้นได้ออกมาพูดว่า "ดิฉันขอตายในสนามประชาธิปไตย"
นางสาวยิ่งลักษณ์ ยังเล่าเพิ่มเติมว่า ในวันนั้นเราเดินตามวิถีประชาธิปไตย ถ้าไปต่อไม่ได้ ก็แค่ยุบสภา แล้วหวังว่าทุกอย่างจะกลับเข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง แต่ทั้งหมดก็ไม่ได้เป็นไปตามที่ดาดไว้ เราไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ เกิดสุญญากาศ เกิดช่องว่างทางการเมือง จากนั้นจึงเกิดรัฐประหาร ซึ่งในวันนั้นได้พยายามประคองสถานการณ์อย่างถึงที่สุดแล้ว เพื่อให้ไปถึงฝั่ง และเมื่อมีการยึดอำนาจแล้ว ก็ไม่คิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะอยู่มาอย่างยาวนาน 8-9 ปี
เมื่อถูกถามว่า ที่ผ่านมาเคยได้คุยกับพลเอกประยุทธ์ หรือไม่ ไม่ว่าจะยกสายโทรหา พูดคุยกัน นางสาวยิ่งลักษณ์ ระบุว่า จะมีได้อย่างไร โดนขนาดนี้ ตนเองโดนขนาดนี้รับไม่ได้อยู่แล้ว เรื่องแบบนี้ถ้าให้พูดยิ่งยาว เราโดนมาขนาดนี้ ประเทศบอบช้ำ ส่วนตัวไม่ยอมรับเรื่องการรัฐประหารอยู่แล้ว จุดนี้มันทำร้ายประเทศจริงๆ
นางสาวยิ่งลักษณ์ ยังกล่าวถึงการเลือกตั้งที่ผ่านมา ว่า วันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปในหลายด้าน ทั้งความคิด แนวทางของคนรุ่นใหม่ วันนี้ต้องยอมรับกับผลที่เกิดขึ้น แล้วดีใจที่พรรคเพื่อไทย สนับสนุนพรรคที่มาเป็นอันดับที่ 1 ให้จัดตั้งรัฐบาล ตามแนวทางประชาธิปไตย ดีใจที่พรรคเพื่อไทย ตัดสินใจเช่นนี้ เพราะหากเรายืดหลักตามประชาธิปไตยมันยาวนานกว่าแน่นอน
นางสาวยิ่งลักษณ์ ยังเผยด้วยว่า วันนี้ยังติดตามข่าวการเมืองอยู่ตลอด ส่วนตัวอยากเห็นประชาธิปไตย ยอมรับวันนี้เป็นโลกของคนรุ่นใหม่แล้ว และไม่อยากเห็นการรัฐประหารอีกต่อไปในสังคมไทย